ฤกษ์สึกพระ ดูยังไง ป้องกันภัยแคล้วคลาดปลอดภัย
ฤกษ์สึกพระ ดูยังไง ป้องกันภัยแคล้วคลาดปลอดภัย การสึกพระถือเป็นพิธีกรรมสำคัญทางศาสนาที่ต้องคำนึงถึงฤกษ์ยามอันเป็นมงคล เพื่อให้ผู้ที่สึกแล้วแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย มาดูวิธีสังเกตฤกษ์สึกพระที่เหมาะสมกัน บทนำ ฤกษ์สึกพระเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเชื่อว่าจะช่วยปกป้องผู้ที่สึกแล้วให้แคล้วคลาดจากภยันตรายและอุปสรรคต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม การสังเกตฤกษ์สึกพระสามารถทำได้หลายวิธี โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ยาม ตำราฤกษ์ และโหรศาสตร์ FAQ 1. ใครบ้างที่ต้องดูฤกษ์สึกพระ ผู้ที่บวชพระแล้วต้องการสึกกลับสู่เพศฆราวาส 2. ดูฤกษ์สึกพระได้จากที่ไหน สามารถดูได้จากตำราฤกษ์โบราณ ปฏิทินโหรศาสตร์ หรือปรึกษาพระเกจิอาจารย์ที่ชำนาญเรื่องฤกษ์ยาม 3. สึกพระนอกฤกษ์มีโทษอย่างไร เชื่อว่าอาจทำให้ผู้ที่สึกแล้วประสบเคราะห์กรรมต่างๆ ได้ เช่น เจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือมีอุปสรรคในชีวิต ปัจจัยในการพิจารณาฤกษ์สึกพระ 1. ยาม ยามเช้า (6.00-12.00 น.) เป็นยามที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น สื่อถึงความสดใสแจ่มใสและการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ยามบ่าย (12.00-18.00 น.) เป็นยามที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มตก สื่อถึงการเสื่อมถอย ยามเย็น (18.00-24.00 น.) เป็นยามที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเวลาที่มืดมัว สื่อถึงความอับโชค ยามค่ำคืน […]
ฤกษ์สึกพระ ดูยังไง ป้องกันภัยแคล้วคลาดปลอดภัย
การสึกพระถือเป็นพิธีกรรมสำคัญทางศาสนาที่ต้องคำนึงถึงฤกษ์ยามอันเป็นมงคล เพื่อให้ผู้ที่สึกแล้วแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย มาดูวิธีสังเกตฤกษ์สึกพระที่เหมาะสมกัน
บทนำ
ฤกษ์สึกพระเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเชื่อว่าจะช่วยปกป้องผู้ที่สึกแล้วให้แคล้วคลาดจากภยันตรายและอุปสรรคต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม การสังเกตฤกษ์สึกพระสามารถทำได้หลายวิธี โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ยาม ตำราฤกษ์ และโหรศาสตร์
FAQ
1. ใครบ้างที่ต้องดูฤกษ์สึกพระ
ผู้ที่บวชพระแล้วต้องการสึกกลับสู่เพศฆราวาส
2. ดูฤกษ์สึกพระได้จากที่ไหน
สามารถดูได้จากตำราฤกษ์โบราณ ปฏิทินโหรศาสตร์ หรือปรึกษาพระเกจิอาจารย์ที่ชำนาญเรื่องฤกษ์ยาม
3. สึกพระนอกฤกษ์มีโทษอย่างไร
เชื่อว่าอาจทำให้ผู้ที่สึกแล้วประสบเคราะห์กรรมต่างๆ ได้ เช่น เจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือมีอุปสรรคในชีวิต
ปัจจัยในการพิจารณาฤกษ์สึกพระ
1. ยาม
- ยามเช้า (6.00-12.00 น.) เป็นยามที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น สื่อถึงความสดใสแจ่มใสและการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ
- ยามบ่าย (12.00-18.00 น.) เป็นยามที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มตก สื่อถึงการเสื่อมถอย
- ยามเย็น (18.00-24.00 น.) เป็นยามที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเวลาที่มืดมัว สื่อถึงความอับโชค
- ยามค่ำคืน (24.00-6.00 น.) เป็นยามที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเวลาที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเจ้าแห่งความมืดมิดและวิญญาณชั่วร้าย
2. ตำราฤกษ์
- ฤกษ์โจโรหฤทัย เป็นฤกษ์ที่ห้ามสึกพระ เพราะเป็นฤกษ์ที่ทำให้เกิดอันตรายจากโจรและการทำร้ายร่างกาย
- ฤกษ์พิฆาตฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ห้ามสึกพระ เพราะเป็นฤกษ์ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย
- ฤกษ์มฤตยูฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ห้ามสึกพระ เพราะเป็นฤกษ์ที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิต
- ฤกษ์ทาริกาฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสมในการสึกพระ เพราะเป็นฤกษ์ที่ทำให้ผู้สึกแล้วประสบความสำเร็จในชีวิตฆราวาส
3. โหรศาสตร์
- ตรวจสอบตำแหน่งดวงดาวต่างๆ เช่น ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และดาวพฤหัสบดี
- พิจารณาธาตุของผู้ที่สึกแล้ว เช่น ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม
- ทำนายดวงชะตาโดยพิจารณาจากลัคนาและตำแหน่งดาวต่างๆ
ข้อควรปฏิบัติเมื่อสึกพระนอกฤกษ์
หากจำเป็นต้องสึกพระนอกฤกษ์ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น
- สวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตาและขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
- ทำบุญทำทาน สร้างกุศล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเทวดาและเจ้ากรรมนายเวร
- ใช้น้ำมนต์ล้างหน้าเพื่อชำระล้างสิ่งอัปมงคล
- นำดอกไม้ ธูป เทียน ไปกราบไหว้พระพุทธรูปเพื่อขอขมาลาโทษ
- สวมเสื้อผ้าสีขาว เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความบริสุทธิ์และความปลอดภัย
บทสรุป
การพิจารณาฤกษ์สึกพระเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยป้องกันผู้ที่สึกแล้วจากอันตรายและอุปสรรคต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม หากสึกพระนอกฤกษ์ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนที่แนะนำเพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น
คำหลัก
- ฤกษ์สึกพระ
- ป้องกันภัย
- ปลอดภัย
- ฤกษ์ยาม
- ฤกษ์มงคล